พลังงานลมจัดเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ดี เพราะการพัดของลมมีมากมายในหลายส่วนของโลก และกังหันลมสามารถติดตั้งได้ในหลายสถานที่ รวมทั้งนอกชายฝั่งและบนบก และพลังงานลมยังไม่ปล่อยมลพิษที่เป็นอันตรายหรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน และการสร้างพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลมมีต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับพลังงานรูปแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีลมแรงและพัดอย่างสม่ำเสมอ
ข้อควรระวังของพลังงานลม
ถึงแม้จะมีประโยชน์ที่น่าสนใจอย่างมากล้นแต่พลังงานลมก็มีข้อจำกัดเช่นกัน เพราะความเร็วลมไม่สามารถคาดเดาได้ ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตจากกังหันลม โดยกังหันลมอาจส่งเสียงดังและส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่า โดยเฉพาะนกและค้างคาว นอกจากนี้ กังหันลมยังต้องการพื้นที่ติดตั้งจำนวนมากและอาจรบกวนสายตาของผู้ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นได้
กระบวนการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานลม
กระบวนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมมีหลายขั้นตอน ซึ่งเราได้นำมาอธิบายให้คุณทำความเข้าใจดังนี้
- กังหันลม: ขั้นตอนแรกคือการติดตั้งกังหันลมในบริเวณที่มีลมแรงและสม่ำเสมอ กังหันลมโดยทั่วไปประกอบด้วยใบพัดขนาดใหญ่ที่ติดตั้งอยู่บนหอคอยสูง ซึ่งเชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ผลิตกระแสไฟฟ้า
- การแปลงพลังงานลม: เมื่อลมพัดเข้ามาปะทะจะทำให้ใบพัดของกังหันหมุน การหมุนของใบมีดจะขับเคลื่อนโรเตอร์ ซึ่งเชื่อมต่อกับเพลาที่หมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จากนั้นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจะแปลงพลังงานกลจากเพลาหมุนเป็นพลังงานไฟฟ้า
- การจ่ายไฟฟ้า: ไฟฟ้าที่ผลิตได้จากกังหันลมจะถูกส่งไปยังหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งจะเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการจ่ายไฟฟ้าเป็นระยะทางไกล จากนั้นไฟฟ้าจะถูกส่งไปยังโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งสามารถจ่ายไฟฟ้าไปยังบ้านเรือน ธุรกิจ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
ประโยชน์ของพลังงานลมคือช่วยลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ดี ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และลดการก่อให้เกิดการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตราย และพลังงานลมยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ชนบทหรือพื้นที่ภูเขาสูง ที่ระบบไฟฟ้าแบบเก่าอาจยากต่อการเข้าถึง
โดยรวมแล้วพลังงานลมจัดเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่ดีซึ่งมีศักยภาพ ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานของมนุษย์ไปสู่ระบบพลังงานที่ยั่งยืนมากขึ้น จากการการควบคุมพลังงานลมด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็จะเป็นการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและความเป็นอิสระด้านพลังงานมากขึ้น